Last updated: 30 พ.ย. 2565 | 342 จำนวนผู้เข้าชม |
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ( วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้การสนับสนุนทีมวิจัย นำโดย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการผลิตคิดค้นนวัตกรรมเส้นใยที่ผลิตจากเถ้าลอยที่ได้จากโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพื่อนำมาใช้เป็นวัสดุเสริมแรงในวัสดุก่อสร้างประเภทผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ หวังเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับใช้ทดแทนแร่ใยหินซึ่งปัจจุบันถูกจัดอยู่ในกลุ่มสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งในมนุษย์หากมีการสูดดมเข้าไปสะสมในร่างกาย โดยผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ที่เสริมแรงโดยใช้เส้นใยที่ผลิตจากเถ้าลอยมีคุณสมบัติต่าง ๆ เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม ปัจจุบันผลงานนวัตกรรมเส้นใยนี้อยู่ในระหว่างการขอรับอนุสิทธิบัตร และหากผลงานนี้ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากทุกภาคส่วนก็สามารถขยายผลต่อยอดผลิตภัณฑ์ไปสู่เชิงพาณิชย์ในอนาคตได้ สามารถเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้กับสังคม อีกทั้งยังตอบสนองต่อ BCG Economy Model ของทางรัฐบาลอีกด้วย
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช . เป็นกลไกสำคัญของรัฐในการขับเคลื่อนและให้การสนับสนุนงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์คิดค้นหรือนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และสามารถถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้สู่ชุมชน รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม จากปัญหามลพิษจากการเผาไหม้หรือจากกระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทำให้หลายหน่วยงานได้ตระหนักถึงอันตรายของสารเคมีเหล่านี้ที่เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ ยกตัวอย่างภาคธุรกิจก่อสร้างที่ในอดีตมีการผลิตเส้นใยที่ทำหน้าที่เสริมแรงทำจากแร่ใยหิน อย่างไรก็ตามในปัจจุบันแร่ใยหินถูกจัดอยู่ในกลุ่มของสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งในมนุษย์โดยองค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (International Agency for Research on Cancer (IARC)) และห้ามใช้ในหลาย ๆ ประเทศ แต่สำหรับประเทศไทยนั้นยังไม่มีการห้ามใช้แร่ใยหิน จุดนี้เองทำให้ทีมนักวิจัยด้านวิศวกรรมวัสดุและวัสดุศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วยคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักวิจัยจากภาคอุตสาหกรรมทั้งอุตสาหกรรมก่อสร้างและอุตสาหกรรมแก้วกระจก ได้ร่วมกันพัฒนาวัสดุประเภทเส้นใยเพื่อเป็นทางเลือกในการนำมาใช้ทดแทนแร่ใยหิน เช่น การนำไปใช้ในวัสดุก่อสร้าง โดยทางทีมวิจัยเลือกใช้เถ้าลอยจากโรงไฟฟ้าถ่านหินมาเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเป็นเส้นใย ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นนอกจากจะตอบโจทย์การพัฒนาวัสดุทดแทนแร่ใยหินแล้ว ยังเป็นการนำวัสดุพลอยได้ (By-product) จากโรงไฟฟ้าถ่านหินมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ BCG Economy Model ทั้งในด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green economy) อีกด้วย