Last updated: 29 ธ.ค. 2563 | 392 จำนวนผู้เข้าชม |
ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 6,440 ราย(เพิ่มขึ้น 155 ราย)
-เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศโดยเพิ่มขึ้น 134 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น
10 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าวโดยการคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 11 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมที่เป็นแรงงานต่างด้าวอยู่ที่ 1,381 ราย)
เสียชีวิตรวม 61 ราย (มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 คน)
รักษาหายป่วยแล้ว 4,184 ราย (64.97%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 4 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 2,195 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในส่วนที่เป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 134 ราย มีรายละเอียดดังนี้
จาก สมุทรสาคร(4) นครปฐม(10) สมุทรสงคราม(2) นครราชสีมา(1) นนทบุรี(1) กรุงเทพมหานคร(11 ราย) ปทุมธานี(1) อุตรดิตถ์(1)
อยู่ระหว่างการสอบสวน(103)
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทาง
มาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 10 ราย
และเข้า State quarantine โดยเข้ารับ
การรักษาที่กรุงเทพมหานคร (6) และอยู่ระหว่างสอบสวน 4 ราย
มีรายละเอียดดังนี้
- จากประเทศเยอรมนี 1 ราย
- จากประเทศเวียดนาม 1 ราย
- จากประเทศอินเดีย 1 ราย
- จากประเทศสวีเดน 1 ราย
- จากประเทศสหรัฐอเมริกา 1 ราย
- จากประเทศตุรกี 1 ราย
- จากประเทศบาห์เรน 4 ราย
สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 81 ล้านราย "โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมมากกว่า 1.78 ล้านราย
(คิดเป็นร้อยละ 2.2 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ)
ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 57.8 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ70.8)
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 10 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16,072 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 9.8 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 96
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 141 ของโลกและยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 151 ของโลก
สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 122,534 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 793 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 2,618 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 106,690 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่
อยู่ที่ 1,594 ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 364 ราย
มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 0 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 41 ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 1 ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 10 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 35 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม