แวะชิมหลากหลายเมนูชาเขียวสุดเข้มข้น ณ ร้าน Tealily Cafe ซอยเอกมัย 12

ชวนคุณหลีกหนีความวุ่นวายของย่านสุขุมวิทในวันศุกร์สุดสัปดาห์ มานั่งจิบชาเขียวเข้มข้นกันที่ร้าน Tealily Cafe ทีเฮาส์สำหรับคนรักชาเขียว ที่ ‘โบว์’ –  ปณิฎา เหล่านิยมชน กราฟิกดีไซเนอร์สาวเจ้าของร้านใช้ความรักและเวลากว่า 10 ปี เก็บสะสมประสบการ์ชงชา จนเกิดเป็นคาเฟ่ไซส์กะทัดรัดที่เพิ่งย้ายมาเปิดบ้านหลังใหม่ ณ ซอยเอกมัย 12

หลังจากที่เดินผ่านสวนเล็กๆ ด้านหน้าเข้ามายังตัวร้าน Tealily ต้อนรับเราด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เข้ากันได้ดีกับการใช้ปูนเปลือยเป็นส่วนสำคัญ ทำให้รู้สึกอุ่นๆ แดดร้อนจากภายนอกถูกตัดด้วยบรรยากาศและแสงไฟสลัวของร้าน โดยมีเคาน์เตอร์ชงชาอยู่บริเวณด้านใน

     เราทักทายคุณโมจิ สมาชิกสี่ขาสำคัญของร้านที่ค่อนข้างจะเมินเราพอสมควร ก่อนที่จะนั่งลงพักที่โต๊ะไม้สี่เหลี่ยมริมหน้าต่าง และเริ่มบทสนทนาเรื่องชากับโบว์

 “เราเป็นคนติดชา-กาแฟอยู่แล้ว จนช่วงปิดเทอมปี 3 ได้แวะไปหาพี่ชายซึ่งกำลังเรียนอยู่ที่เกียวโต เขารู้ว่าเราชอบกินชาเขียว ก็เลยพาไปตระเวนชิมชา ไปคุยกับคนที่สอนชงชา เราเลยได้รู้ว่าเราชอบเรียน มันสนุก และได้เข้าใจว่าชาแต่ละชนิดมาจากไหน ที่เราประทับใจมากๆ คือ อาจารย์ที่สอนช่วยตั้งคำถามให้เราถามตัวเองด้วยว่า ทำไมเราถึงมาเรียน? แล้วเขาก็บอกว่า ‘คุณไม่ต้องรีบตอบ ได้คำตอบเมื่อไหร่คุณค่อยกลับมาหาผม’ เราเลยกลับมาทบทวนจนพบว่า พอได้ทำสิ่งนี้แล้วใจเราฟูกว่าอย่างอื่นเยอะเลย (ยิ้ม)”

เพราะความรักในชาที่ทำให้หัวใจพองโต โบว์ใช้เวลาศึกษาและค่อยๆ เก็บประสบการณ์กับอาจารย์ชาวญี่ปุ่นอยู่นานกว่า 10 ปี สลับกับการทำงานที่เมืองไทย ก่อนที่จังหวะโอกาสจะพาให้เธอได้เจอกับบ้านเล็กหลังหนึ่งในซอยสุขุมวิท 39 ที่กลายมาเป็นร้าน Tealily สาขาแรกในเวลาต่อมา

     “ตอนนั้นในร้านมีแค่โต๊ะใหญ่โต๊ะเดียว ที่เราตั้งใจให้เพื่อนๆ กลุ่มที่ทำกราฟิกดีไซน์มาประชุมงานกัน แล้วมีเราคอยชงชาให้กิน แต่ทีนี้มันก็ไปเรื่อยเลย พอไปเห็นขนม ไปเห็นบราวนี่ ก็อยากทำเป็นชาเขียว แล้วก็ลามไปน้ำแข็งไส ไอศกรีม เหมือนแค่เราลองเข้าครัวทำเล่นๆ ก็สนุกแล้ว ยิ้มออกแล้ว เลยค่อยๆ ทำมาเรื่อยๆ จนถึงร้านนี้ อย่างขนมที่ออกมาตัวล่าสุดก็เป็น บานอฟฟี่ ซึ่งก็มาจากความคิดว่าทำไมจะเป็นรสชาเขียวไมได้ เราเลยลองทำดู”

     “เราจะถูกถามบ่อยๆ ว่าทำไมมาเปิดร้านชาเขียว? ทำมาแล้วกี่ปี? แต่จริงๆ แล้ว อาจารย์ชงชาเคยบอกเราว่า คำถามที่ถูกต้องควรจะถามว่า ‘เราจะยังอยู่กับมันไปอีกนานเท่าไหร่?’ ” โบว์พูดถึงคำถามสำคัญจากอาจารย์ ซึ่งเธอได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นจากการเติบโตของร้านชาสาขาใหม่แห่งนี้ ที่เพิ่งขยับขยายมาอยู่ในซอยเอกมัย 12 เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

เราคุยกันเรื่อยเปื่อยได้สักพัก หลักฐานยืนยันความสำเร็จก็ทยอยมาเสิร์ฟที่โต๊ะ….

     โฮจิฉะลาเต้ร้อน (Hojicha Piccolo Latte) ถูกนำมาวางพร้อมกับ ชิรามะดังโงะแบบโฮมเมดที่มาคู่กับถั่วแดงและซอสชาเขียว (Matcha Shiratama Dango)

 ตามด้วยกรานิต้าชาเขียวอุจิสุดเข้มข้น (Uji Matcha Granita) เสิร์ฟพร้อมไอศกรีม ที่หน้าตาน่ากินจนต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก

     ไม่ใช่แค่หน้าตา แต่รสชาติของของหวานและเครื่องดื่มที่ Tealily นั้นก็ดีงามถูกใจสายชาเขียว เราชอบเมนูกรานิต้าเป็นพิเศษ ด้วยเนื้อไอศกรีมหวานมันที่เข้ากันกับรสชาติเข้มๆ ของชาเขียวเป็นอย่างดี จนเราขอยกให้จานนี้เป็นเมนูแนะนำ

 ส่วนใครที่มีโอกาสมาร้านช่วงวันเสาร์อาทิตย์ บานอฟฟี่ชาเขียว ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์เด็ดของร้านที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

     หลังจากจิบชา กินขนมผสมพูดคุยกันแบบสบายๆ เสร็จแล้ว ก่อนกลับอย่าลืมแวะลูบหัว บอกลาคุณแมวโมจิอีกครั้ง เป็นอันจบวันศุกร์ที่ดีอีกหนึ่งวัน

Facebook: Tealily Cafe

สนับสนุนข้อมูล